กาวยูวี ใช้งาน แบบไหน ?
กาวยูวี ใช้ ใน งานประดิษฐ์ DIY หรือการใช้งานในเชิงพาณิชย์ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีความต้องการกาว ที่ใช้ในการเชื่อมประสานที่มีความแห้งใส ไม่ว่าจะเป็นวัสดุจำพวกกระจก พลาสติก อะคริลิค คริสตัล แก้ว เหล็ก หรือโลหะอื่นๆแม้กระทั่งกระดาษ (กระดาษโฟโต้)
ในปัจจุบันกาวยูวีได้รับความนิยมเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในหลากหลายธุรกิจ เนื่องจากมีประสิทธิภาพ
ที่ยึดติดชิ้นงานได้อย่างแข็งแรง ทนทานมากกว่ากาวประเภทอื่น และยังมีความสวยงามมากกว่ากาวชนิดอื่นๆอีกด้วย
กาวยูวีเป็นกาวที่ต้องอบแห้ง ด้วยแสงอุลตร้าไวโอเลตหรือแสงยูวี (UV-A 365-400nm)
เพื่อทำให้เกิดปฎิกริยาในการทำให้กาวแข็งตัว หรือทำให้กาวมีคุณสมบัติในการยึดติดที่ดีมากยิ่งขึ้นในระดับโมเลกุล ซึ่งจะแตกต่างกับกาวประเภทอื่น
ที่จะต้องใช้เวลาในการรอให้กาวแห้ง แต่กาว UV จะใช้แสง UV ในการทำให้กาวแห้ง และแข็งได้อย่างรวดเร็ว โดยกาว UV นั้นจะเป็นสารพวกพอลิเมอร์ที่จะใช้แสง UV ในการทำให้การเชื่อมต่อกันระหว่างโมเลกุลนั้นมีความแข็งได้
กาวยูวีใช้งานยังไง
การใช้งานกาวยูวี มีเพียง 4 ขั้นตอนง่ายๆ
1.เตรียมชิ้นงาน ทำความสะอาดด้วยแอลกอลฮอล เพื่อล้างคราบมัน และฝุ่นผง
2.หยอดกาวลงบนชิ้นงาน ในปริมาณที่เหมาะสม
3.น้ำชิ้นงานประกบกัน ไล่ฟองอากาศออกให้หมด
4.อบแห้งด้วยแสงยูวี ( หรือยกไปตากแดด )
โดยวิธีที่ดีที่สุด ในการติดวัสดุต่างๆด้วยกาวยูวีนั้น สิ่งที่สำคัญคือระหว่างการฉายแสงยูวีให้กาวแห้ง ตัววัสดุที่เราต้องการเชื่อมต่อ ไม่ว่าจะเป็นกระจกกับกระจก หรือ กระจก กับ สเตนเลส
ข้อดี และ ข้อเสีย ของกาว UV
1.อาจจะมีการเปลี่ยนสีเหลืองในบางครั้ง
จากรายงานพบว่า ในบางครั้งกาว UV จะมีการเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หลังจากที่ใช้งานไป 1-2 ปี
ซึ่งจะเปลี่ยนจากเนื้อกาวจากที่มีความใส เป็นเนื้อกาวสีเหลืองอ่อน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาในการใช้งานได้ โดย กาว UV นั้นไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทุกประเภท แต่จะมีบางประเภทเท่านั้นที่มีการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะทำให้มีสีเหลืองออกมาหลังจากที่ใช้ไประยะหนึ่ง โดยเราสามารถเลือกใช้งาน และเลือกกาวที่มีมาตรฐานการผลิตที่ดี และเชื่อถือได้
2.การทนต่อแรงเฉือนไม่ดีนัก
กาวยูวีเมื่อเราฉายแสงยูวี เพื่อให้กาวทำปฎิกริยาโดยสมบรูณ์แล้ว เราแทบจะดึงกระจกแยกออกจากกันไม่ได้เลย (ขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการติดด้วย) เพราะกาวยูวีมีแรงยึดเกาะกระจกสูงมาก ถึง 200 กิโลกรัม ต่อตารางเซนติเมตร แต่จากรายงานพบว่า ในการขนส่งและเคลื่อนย้าย ประเภทโต๊ะ ตู้ ในบางครั้งรอยต่อที่มีการเชื่อมไว้ มีการหลุด หรือแยกออกจากัน เนื่องจากมีการสั่นสะเทือนและมีการบิดตัวของชิ้นส่วนที่ยึดติดกัน อาจจะเนื่องมาจากการมัด การยึดที่ไม่แน่นหนาพอ จึงทำให้เกิดแรงบิดเฉือนที่มากพอจะหลุดแยกออกได้ ดังนั้นในการเคลื่อนย้าย ต้องให้แน่ใจว่ายึดได้แน่นหนาเพียงพอแล้ว
3.มีราคาสูง
ด้วยกาว UV จะมีราคาที่สูงกว่ากาวทั่วไปอยู่พอสมควร แต่ว่าไม่ได้สูงมากจนเกินไป ซึ่งราคาที่เพิ่มขึ้นมานั้น ผู้ที่ซื้อมาใช้งานสามารถเปรียบเทียบความคุ้มค่ากัน ระหว่างกาวทั่วๆไปและกาวยูวี ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับความสะดวกสบายและความง่ายในการทำงาน โดยที่มีประสิทธิภาพสูงแล้ว กาว UV เรียกว่ามีความคุ้มค่ามากกว่ากาวแบบธรรมดา และในการลงทุนครั้งแรกนั้น ผู้ที่ใช้จำเป็นต้องซื้อโคมไฟ UV ด้วย เพื่อที่จะนำมาใช้งาน จึงทำให้การลงทุนในครั้งแรกนั้นมีราคาที่สูงกว่ากาวทั่วไปนั่นเอง
กาวยูวี เป็นกาว ใสไร้คราบ
การใช้งานเช่น ติดสแตนเลสกับกระจก อลูมิเนียมกับกระจก โลหะ อะคริลิค พลาสติก อัญมณี เพชร พลอยและอื่นๆ คุณสามารถที่จะทำให้ กาวUV แห้ง ได้โดยการผ่านแสงUVเท่านั้น โดยใช้เวลาประมาณ 1-3 นาที หลังจากอบแห้งแล้วจะมีคุณสมบัติ ยึดติดแน่นทนทานและไม่มีคราบกาว ให้กวนใจ ใช้งานง่าย และใช้ได้กับงานหลาย ๆ ประเภท เพียงแค่ วัสดุที่นำมาติด จะต้องเรียบ ใส หรือเป็นวัสดุที่แสงสามารถผ่าน ไปทำปฏิกิริยากับกาวได้
การเก็บกาวยูวี ให้เก็บไว้ในที่ร่ม หรือที่มืด ห่างจากแสงแดด ในอุณหภูมิห้องปกติ
(หรือใส่ไว้ในตู้เย็น ช่องธรรมดา) สามารถเก็บรักษา ได้เป็นปี หลังจากการเปิดใช้งาน
กาว UVแบบ
กาวยูวี ใช้งาน แบบไหน ?
กาวยูวีใช้ในงานประดิษฐ์ DIY หรือการใช้งานในเชิงพาณิชย์ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีความต้องการกาว ที่ใช้ในการเชื่อมประสานที่มีความแห้งใส ไม่ว่าจะเป็นวัสดุจำพวกกระจก พลาสติก อะคริลิค คริสตัล แก้ว เหล็ก หรือโลหะอื่นๆแม้กระทั่งกระดาษ (กระดาษโฟโต้)
ในปัจจุบันกาวยูวีได้รับความนิยมเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในหลากหลายธุรกิจ เนื่องจากมีประสิทธิภาพ
ที่ยึดติดชิ้นงานได้อย่างแข็งแรง ทนทานมากกว่ากาวประเภทอื่น และยังมีความสวยงามมากกว่ากาวชนิดอื่นๆอีกด้วย
กาวยูวีเป็นกาวที่ต้องอบแห้ง ด้วยแสงอุลตร้าไวโอเลตหรือแสงยูวี (UV-A 365-400nm)
เพื่อทำให้เกิดปฎิกริยาในการทำให้กาวแข็งตัว หรือทำให้กาวมีคุณสมบัติในการยึดติดที่ดีมากยิ่งขึ้นในระดับโมเลกุล ซึ่งจะแตกต่างกับกาวประเภทอื่น ที่จะต้องใช้เวลาในการรอให้กาวแห้ง แต่กาว UV จะใช้แสง UV ในการทำให้กาวแห้ง และแข็งได้อย่างรวดเร็ว โดยกาว UV นั้นจะเป็นสารพวกพอลิเมอร์ที่จะใช้แสง UV ในการทำให้การเชื่อมต่อกันระหว่างโมเลกุลนั้นมีความแข็งได้
กาวยูวีใช้งานยังไง
การใช้งานกาวยูวี มีเพียง 4 ขั้นตอนง่ายๆ
1.เตรียมชิ้นงาน ทำความสะอาดด้วยแอลกอลฮอล เพื่อล้างคราบมัน และฝุ่นผง
2.หยอดกาวลงบนชิ้นงาน ในปริมาณที่เหมาะสม
3.น้ำชิ้นงานประกบกัน ไล่ฟองอากาศออกให้หมด
4.อบแห้งด้วยแสงยูวี ( หรือยกไปตากแดด )
โดยวิธีที่ดีที่สุด ในการติดวัสดุต่างๆด้วยกาวยูวีนั้น สิ่งที่สำคัญคือระหว่างการฉายแสงยูวีให้กาวแห้ง ตัววัสดุที่เราต้องการเชื่อมต่อ ไม่ว่าจะเป็นกระจกกับกระจก หรือ กระจก กับ สเตนเลส
ข้อดี และ ข้อเสีย ของกาว UV
1.อาจจะมีการเปลี่ยนสีเหลืองในบางครั้ง
จากรายงานพบว่า ในบางครั้งกาว UV จะมีการเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หลังจากที่ใช้งานไป 1-2 ปี
ซึ่งจะเปลี่ยนจากเนื้อกาวจากที่มีความใส เป็นเนื้อกาวสีเหลืองอ่อน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาในการใช้งานได้ โดย กาว UV นั้นไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทุกประเภท แต่จะมีบางประเภทเท่านั้นที่มีการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะทำให้มีสีเหลืองออกมาหลังจากที่ใช้ไประยะหนึ่ง โดยเราสามารถเลือกใช้งาน และเลือกกาวที่มีมาตรฐานการผลิตที่ดี และเชื่อถือได้
2.การทนต่อแรงเฉือนไม่ดีนัก
กาวยูวีเมื่อเราฉายแสงยูวี เพื่อให้กาวทำปฎิกริยาโดยสมบรูณ์แล้ว เราแทบจะดึงกระจกแยกออกจากกันไม่ได้เลย (ขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการติดด้วย) เพราะกาวยูวีมีแรงยึดเกาะกระจกสูงมาก ถึง 200 กิโลกรัม ต่อตารางเซนติเมตร แต่จากรายงานพบว่า ในการขนส่งและเคลื่อนย้าย ประเภทโต๊ะ ตู้ ในบางครั้งรอยต่อที่มีการเชื่อมไว้ มีการหลุด หรือแยกออกจากัน เนื่องจากมีการสั่นสะเทือนและมีการบิดตัวของชิ้นส่วนที่ยึดติดกัน อาจจะเนื่องมาจากการมัด การยึดที่ไม่แน่นหนาพอ จึงทำให้เกิดแรงบิดเฉือนที่มากพอจะหลุดแยกออกได้ ดังนั้นในการเคลื่อนย้าย ต้องให้แน่ใจว่ายึดได้แน่นหนาเพียงพอแล้ว
3.มีราคาสูง
ด้วยกาว UV จะมีราคาที่สูงกว่ากาวทั่วไปอยู่พอสมควร แต่ว่าไม่ได้สูงมากจนเกินไป ซึ่งราคาที่เพิ่มขึ้นมานั้น ผู้ที่ซื้อมาใช้งานสามารถเปรียบเทียบความคุ้มค่ากัน ระหว่างกาวทั่วๆไปและกาวยูวี ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับความสะดวกสบายและความง่ายในการทำงาน โดยที่มีประสิทธิภาพสูงแล้ว กาว UV เรียกว่ามีความคุ้มค่ามากกว่ากาวแบบธรรมดา และในการลงทุนครั้งแรกนั้น ผู้ที่ใช้จำเป็นต้องซื้อโคมไฟ UV ด้วย เพื่อที่จะนำมาใช้งาน จึงทำให้การลงทุนในครั้งแรกนั้นมีราคาที่สูงกว่ากาวทั่วไปนั่นเอง
กาวยูวี เป็นกาว ใสไร้คราบ การใช้งานเช่น ติดสแตนเลสกับกระจก อลูมิเนียมกับกระจก โลหะ อะคริลิค พลาสติก อัญมณี เพชร พลอยและอื่นๆ คุณสามารถที่จะทำให้ กาวUV แห้ง ได้โดยการผ่านแสงUVเท่านั้น โดยใช้เวลาประมาณ 1-3 นาที หลังจากอบแห้งแล้วจะมีคุณสมบัติ ยึดติดแน่นทนทานและไม่มีคราบกาว ให้กวนใจ ใช้งานง่าย และใช้ได้กับงานหลาย ๆ ประเภท เพียงแค่ วัสดุที่นำมาติด จะต้องเรียบ ใส หรือเป็นวัสดุที่แสงสามารถผ่าน ไปทำปฏิกิริยากับกาวได้
การเก็บกาวยูวี ให้เก็บไว้ในที่ร่ม หรือที่มืด ห่างจากแสงแดด ในอุณหภูมิห้องปกติ (หรือใส่ไว้ในตู้เย็น ช่องธรรมดา) สามารถเก็บรักษา ได้เป็นปี หลังจากการเปิดใช้งาน
กาว UVแบบ
กาวยูวี ใช้งาน แบบไหน ?
กาวยูวีใช้ในงานประดิษฐ์ DIY หรือการใช้งานในเชิงพาณิชย์ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีความต้องการกาว ที่ใช้ในการเชื่อมประสานที่มีความแห้งใส ไม่ว่าจะเป็นวัสดุจำพวกกระจก พลาสติก อะคริลิค คริสตัล แก้ว เหล็ก หรือโลหะอื่นๆแม้กระทั่งกระดาษ (กระดาษโฟโต้)
ในปัจจุบันกาวยูวีได้รับความนิยมเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในหลากหลายธุรกิจ เนื่องจากมีประสิทธิภาพ
ที่ยึดติดชิ้นงานได้อย่างแข็งแรง ทนทานมากกว่ากาวประเภทอื่น และยังมีความสวยงามมากกว่ากาวชนิดอื่นๆอีกด้วย
กาวยูวีเป็นกาวที่ต้องอบแห้ง ด้วยแสงอุลตร้าไวโอเลตหรือแสงยูวี (UV-A 365-400nm)
เพื่อทำให้เกิดปฎิกริยาในการทำให้กาวแข็งตัว หรือทำให้กาวมีคุณสมบัติในการยึดติดที่ดีมากยิ่งขึ้นในระดับโมเลกุล ซึ่งจะแตกต่างกับกาวประเภทอื่น ที่จะต้องใช้เวลาในการรอให้กาวแห้ง แต่กาว UV จะใช้แสง UV ในการทำให้กาวแห้ง และแข็งได้อย่างรวดเร็ว โดยกาว UV นั้นจะเป็นสารพวกพอลิเมอร์ที่จะใช้แสง UV ในการทำให้การเชื่อมต่อกันระหว่างโมเลกุลนั้นมีความแข็งได้
กาวยูวีใช้งานยังไง
การใช้งานกาวยูวี มีเพียง 4 ขั้นตอนง่ายๆ
1.เตรียมชิ้นงาน ทำความสะอาดด้วยแอลกอลฮอล เพื่อล้างคราบมัน และฝุ่นผง
2.หยอดกาวลงบนชิ้นงาน ในปริมาณที่เหมาะสม
3.น้ำชิ้นงานประกบกัน ไล่ฟองอากาศออกให้หมด
4.อบแห้งด้วยแสงยูวี ( หรือยกไปตากแดด )
โดยวิธีที่ดีที่สุด ในการติดวัสดุต่างๆด้วยกาวยูวีนั้น สิ่งที่สำคัญคือระหว่างการฉายแสงยูวีให้กาวแห้ง ตัววัสดุที่เราต้องการเชื่อมต่อ ไม่ว่าจะเป็นกระจกกับกระจก หรือ กระจก กับ สเตนเลส
ข้อดี และ ข้อเสีย ของกาว UV
1.อาจจะมีการเปลี่ยนสีเหลืองในบางครั้ง
จากรายงานพบว่า ในบางครั้งกาว UV จะมีการเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หลังจากที่ใช้งานไป 1-2 ปี
ซึ่งจะเปลี่ยนจากเนื้อกาวจากที่มีความใส เป็นเนื้อกาวสีเหลืองอ่อน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาในการใช้งานได้ โดย กาว UV นั้นไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทุกประเภท แต่จะมีบางประเภทเท่านั้นที่มีการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะทำให้มีสีเหลืองออกมาหลังจากที่ใช้ไประยะหนึ่ง โดยเราสามารถเลือกใช้งาน และเลือกกาวที่มีมาตรฐานการผลิตที่ดี และเชื่อถือได้
2.การทนต่อแรงเฉือนไม่ดีนัก
กาวยูวีเมื่อเราฉายแสงยูวี เพื่อให้กาวทำปฎิกริยาโดยสมบรูณ์แล้ว เราแทบจะดึงกระจกแยกออกจากกันไม่ได้เลย (ขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการติดด้วย) เพราะกาวยูวีมีแรงยึดเกาะกระจกสูงมาก ถึง 200 กิโลกรัม ต่อตารางเซนติเมตร แต่จากรายงานพบว่า ในการขนส่งและเคลื่อนย้าย ประเภทโต๊ะ ตู้ ในบางครั้งรอยต่อที่มีการเชื่อมไว้ มีการหลุด หรือแยกออกจากัน เนื่องจากมีการสั่นสะเทือนและมีการบิดตัวของชิ้นส่วนที่ยึดติดกัน อาจจะเนื่องมาจากการมัด การยึดที่ไม่แน่นหนาพอ จึงทำให้เกิดแรงบิดเฉือนที่มากพอจะหลุดแยกออกได้ ดังนั้นในการเคลื่อนย้าย ต้องให้แน่ใจว่ายึดได้แน่นหนาเพียงพอแล้ว
3.มีราคาสูง
ด้วยกาว UV จะมีราคาที่สูงกว่ากาวทั่วไปอยู่พอสมควร แต่ว่าไม่ได้สูงมากจนเกินไป ซึ่งราคาที่เพิ่มขึ้นมานั้น ผู้ที่ซื้อมาใช้งานสามารถเปรียบเทียบความคุ้มค่ากัน ระหว่างกาวทั่วๆไปและกาวยูวี ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับความสะดวกสบายและความง่ายในการทำงาน โดยที่มีประสิทธิภาพสูงแล้ว กาว UV เรียกว่ามีความคุ้มค่ามากกว่ากาวแบบธรรมดา และในการลงทุนครั้งแรกนั้น ผู้ที่ใช้จำเป็นต้องซื้อโคมไฟ UV ด้วย เพื่อที่จะนำมาใช้งาน จึงทำให้การลงทุนในครั้งแรกนั้นมีราคาที่สูงกว่ากาวทั่วไปนั่นเอง
กาวยูวี เป็นกาว ใสไร้คราบ การใช้งานเช่น ติดสแตนเลสกับกระจก อลูมิเนียมกับกระจก โลหะ อะคริลิค พลาสติก อัญมณี เพชร พลอยและอื่นๆ คุณสามารถที่จะทำให้ กาวUV แห้ง ได้โดยการผ่านแสงUVเท่านั้น โดยใช้เวลาประมาณ 1-3 นาที หลังจากอบแห้งแล้วจะมีคุณสมบัติ ยึดติดแน่นทนทานและไม่มีคราบกาว ให้กวนใจ ใช้งานง่าย และใช้ได้กับงานหลาย ๆ ประเภท เพียงแค่ วัสดุที่นำมาติด จะต้องเรียบ ใส หรือเป็นวัสดุที่แสงสามารถผ่าน ไปทำปฏิกิริยากับกาวได้
การเก็บกาวยูวี ให้เก็บไว้ในที่ร่ม หรือที่มืด ห่างจากแสงแดด ในอุณหภูมิห้องปกติ (หรือใส่ไว้ในตู้เย็น ช่องธรรมดา) สามารถเก็บรักษา ได้เป็นปี หลังจากการเปิดใช้งาน
กาว UVแบบ
